สิ่งที่คุณต้องรู้ เกี่ยวกับ ‘ศูนย์ข้อมูลไฮบริด’

ศูนย์ข้อมูลไฮบริด

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการย้ายการจัดเก็บข้อมูลไปยังระบบคลาวด์ที่มีเสถียรภาพ ส่งผลทำให้การเข้าใช้แอปพลิเคชัน สามารถใช้งานได้จากทุกที่และทำได้อย่างง่ายดาย มีความคุ้มค่าที่จะถูกย้ายไปยังระบบคลาวด์ภายนอก การใช้งานที่เหลืออยู่จึงง่ายที่จะเชื่อมต่อเข้ากับระบบการบริการภายในสถานที่ตั้ง หรือเป็นระบบที่มีค่าใช้จ่ายแพงเกินไปที่จะย้ายออกไป

สิ่งเหล่านี้บังคับให้มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการที่พนักงานศูนย์ข้อมูล จะจัดการทรัพย์สินของตนด้วยสินทรัพย์บางประเภทที่ได้รับการว่าจ้างมาจากภายนอก และอีกหลายแห่งยังคงอยู่ในสถานที่ตั้งเดิม เนื่องจากเป็น “เทคโนโลยีที่ซับซ้อน”

โครงสร้างศูนย์ข้อมูล “ไฮบริด” ใหม่เป็นการผสมผสานของ – คลาวด์แบบรวมศูนย์ ซึ่งมีลักษณะการคำนวณและการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ โดยศูนย์ข้อมูลระดับภูมิภาคที่ประกอบด้วยเครื่องคำนวณ และการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้กับผู้ใช้ในระดับท้องถิ่น ที่มีการคำนวณและจัดเก็บข้อมูลไม่มากนัก ซึ่งใกล้เคียงกับปริมาณการใช้ข้อมูลและการประมวลผลในระดับสาขาของร้านค้าปลีก

ซึ่งตามข้อมูลล่าสุดที่รวบรวมโดยนักวิเคราะห์วิจัย 451 ราย ในปี 2019 คาดการณ์ว่าปริมาณงานขององค์กรเพียงครึ่งหนึ่ง (46%) จะทำงานในสภาพแวดล้อมด้านไอทีที่ติดตั้งอยู่ในสถานที่นั้นๆ โดยส่วนที่เหลือจะใช้งานนอกสถานที่ได้

ลักษณะที่สำคัญของศูนย์ข้อมูลไฮบริด

ลักษณะเฉพาะของศูนย์ข้อมูลไฮบริดเป็นจุดเริ่มต้น ที่จะผุดขึ้นมาจากแนวทางดั้งเดิมที่ได้รับความนิยมมาแต่ดั้งเดิม

ความเหมาะสมของแอปพลิเคชัน – แอปพลิเคชันแบบเดิมมักไม่เหมาะที่จะใช้งานนอกสถานที่ แม้ว่าจะมีความพยายามผลักดันให้องค์กรต่างๆเข้าสู่การจัดการสมัยใหม่ และพัฒนาเครือข่ายแอปพลิเคชันใหม่ๆ ให้ทำงานอยู่บนระบบคลาวด์ทั้งหมดแล้วก็ตาม

ศูนย์ข้อมูลไฮบริด

การจัดการภาระงาน – ปริมาณงานจะได้รับการวิเคราะห์ตามแต่ละกรณี ความเสี่ยง ค่าใช้จ่ายและประสิทธิภาพการบริการด้านไอที เป็นตัวแปรที่กำหนดว่าสภาพแวดล้อมของดาต้าเบสที่แตกต่างกัน จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับปริมาณงานและลักษณะงานประเภทใด

เครื่องมือซอฟต์แวร์ขั้นสูง – บริษัทที่จัดการสภาพแวดล้อมดาต้าเซ็นเตอร์แบบไฮบริด กำลังลงทุนในซอฟต์แวร์ที่จะช่วยให้การติดตาม และมองเห็นความเปลี่ยนแปลงออกมาเป็นภาพที่ชัดเจน เพื่อจัดการระบบสำรองข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

เครื่องมือและเทคนิคพิเศษสามารถลดความซับซ้อนของงาน ในการจัดการสภาพแวดล้อมแบบผสมผสานได้ ยกตัวอย่างเช่น กรณีของศูนย์ข้อมูลระดับท้องถิ่น ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กที่กำลังเป็นแนวทางสำคัญ

ในการทำหน้าที่เป็นตัวช่วยให้การเข้าถึงแอปพลิเคชันของคนท้องถิ่นเองใช้งานได้มากขึ้น ช่วยลดพลังงานในการส่งออกไปนอกพื้นที่ มีอัตราการตอบสนองของแอปพลิเคชันที่รวดเร็ว และรองรับแอปพลิเคชัน IoT ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล การรวบรวมและการประมวลผล

ใช่!!! ศูนย์ข้อมูล Micro มีความแตกต่างกันเล็กน้อย

ศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่มีอยู่ภายในตัวเอง ซึ่งมีอยู่ในตู้ที่มีการปรับอากาศและการระบายความร้อน (การกำจัดอากาศร้อน) ตลอดจนการกระจายพลังงานและการเชื่อมต่อเครือข่ายที่มีอยู่ภายใน รวมถึงฟังก์ชั่นอื่น ๆ เช่นการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพ การดับเพลิงป้องกันสัญญาณรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ระบบปรับอากาศและแหล่งจ่ายไฟสำรองหรือแบตเตอรี่

เนื่องจากขนาดของดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีขนาดเล็ก และมีฟังก์ชันการทำงานที่ครบถ้วน ศูนย์ข้อมูลเหล่านี้จึงสามารถขยายได้ เนื่องจาก “สิ่งต่างๆ” มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต สามารถประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลได้จำนวนมาก

ศูนย์ข้อมูลไฮบริด
ข้อกำหนดสำหรับซอฟต์แวร์และทักษะขั้นสูง

สถาปัตยกรรมการจัดการศูนย์ข้อมูลแบบใหม่เป็นบริการรูปแบบ (DMaaS) เพื่อทำให้สิ่งจำเป็นในการจัดการสภาพแวดล้อม ของศูนย์ข้อมูลลูกผสมที่เกิดขึ้นใหม่มีประสิทธิภาพสูงสุด หนึ่งในนั้นคือ EcoStruxure IT ของ Schneider Electric ซึ่งทำให้สามารถมองเห็นและปรับขยายระบบการจัดการได้อย่างอิสระ โดยใช้สถาปัตยกรรมระบบเปิดและทำงานร่วมกันของผู้ขาย

EcoStruxure IT สามารถเชื่อมต่อศูนย์ข้อมูลและระบบไอทีที่แตกต่างกันได้ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถจัดการระบบนิเวศน์ขนาดใหญ่ จากระยะไกลได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

พร้อมกับควบคุมข้อมูลเชิงลึกจากฐานข้อมูลข้อมูล ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ใช้ทั่วโลกที่ไม่ระบุตัวตน โดยข้อมูลนี้ให้การเปิดเผยข้อมูลเรียลไทม์และการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ในสภาพแวดล้อมแบบผสมผสานทั้งหมด

บทความโดย Steven Carlini รองประธานแผนกนวัตกรรม of Innovation and Data Center for Schneider Electric

ลิงค์ที่เกีี่ยวข้อง

Schneider Electric

banner Sample

Related Posts