รีวิว: แอคคอร์ด 1.5 เทอร์โบแรงแบบไม่ผิดหวัง เดินทางไกลสบาย

รถยนต์เครื่องเล็กแต่แรงในตลาดปัจจุบันมีให้เลือกกันหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่ก็จะมากับตัวถังที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่สำหรับรถเก๋งขนาดกลางอย่าง Honda Accord 1.5 TURBO EL คันนี้ เป็นรถขนาดครอบครัวมาพร้อมขนาดตัวที่ค่อนข้างใหญ่ และใช้เครื่องแค่ 1.5 ลิตร ทำให้เกิดข้อสงสัยกันว่ารถคันขนาดนี้ใช้เครื่องเท่านี้จะไหวเหรอ อัตราเร่งเป็นอย่างไร แซงช่วงคับขันจะรอดไหม Thereporter.asia มีคำตอบมาคลายข้อกังวลกัน

แอคคอร์ดใหม่มีขนาดตัวถังยาว 4,894 มิลลิเมตร กว้าง 1,862 มิลลิเมตร สูง 1,450 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,830 มิลลิเมตร น้ำหนักรถอยู่ที่ 1,464 กิโลกรัม ส่วนเครื่องยนต์นั้นเป็นเบนซินขนาด 1.5 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุดถึง 190 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 243 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 5,000 รอบ/นาที ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้วแรงม้าและแรงบิดมีมากกว่าตัวซีวิคเทอร์โบพอสมควร โดยเครื่องยนต์ของซีวิคจะให้กำลัง 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร มีน้ำหนักรถอยู่ที่ 1,306 กิโลกรัม

“แม้ตัวถังจะมีขนาดใหญ่แต่ด้วยพละกำลังด้านตัวเลขที่แรงกว่ารถยนต์เครื่อง 2500 ซีซีในหลายๆ รุ่น ทำให้แอคคอร์ดเทอร์โบคันนี้ขับสนุกกว่าที่คิด ตั้งแต่การออกตัวที่ไม่มีอาการงอแง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชั่วโมง ลองทดสอบแบบคร่าวๆ ได้ประมาณ 9.5 วินาที พร้อมที่จะพุ่งทะยานไปตามที่ใจต้องการ อัตราเร่งแซงในทุกช่วงความเร็วมีความมั่นใจได้มาก ไม่ต้องพะวง ไม่ต้องลุ้น แม้จะไม่จี๊ดจ๊าดแบบซีวิคที่ออกแนววัยรุ่น แต่ก็เป็นผู้ใหญ่ที่วิ่งได้เร็ว แซงได้ขาด และมีความมั่นใจทุกการเร่งเพื่อสร้างความเร็วได้อย่างมาก แม้ในทริปนี้เราจะบรรทุกผู้โดยสาร 5 คน เป็นไซส์ใหญ่ไปซะ 4 คน อัตราเร่งก็ยังทำได้ดีแบบไม่อืดเลย”

เช่นเดียวกับโหมดสปอร์ตนั้นก็ให้ความรู้สึกว่าพร้อมรบเสมอ เพราะเมื่อกดเข้าโหมดนี้ รอบจะขึ้นมารอที่ 2,000-2,500 คันเร่งจะไวขึ้น แตะนิดแตะหน่อยก็พุ่งแล้ว ในโหมดสปอร์ตนี้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชั่วโมงต่ำกว่า 9 วินาที ส่วนการตอบสนองของช่วงล่างนั้นก็นิ่งและเกาะถนนได้หนึบนุ่มพอประมาณ สร้างความสบายในการเดินทางไกลได้มาก เป็นบุคลิกรถคันใหญ่ที่มีความคล่องตัว ขับได้แบบชิวๆ ไม่อึดอัด มุดซ้ายมุดขวาและเข้าโค้งแบบไม่แรงมากได้แบบสบายๆ แต่ขับโหดมากไปก็ไม่เหมาะเหมือนกัน

ความเร็วสูงสุดในทริปนี้ไม่ได้ลอง แต่ความเร็วระดับ 160 กิโลเมตรก็ยังมีความมั่นใจในทางตรงได้ดีอยู่ พวงมาลัยมีน้ำหนักกำลังดี ตอบสนองดีในทุกช่วงความเร็ว ส่วนเบรคก็จะหยุดได้ตามน้ำหนักเท้าที่เรากดลงไป

มาทางด้านเทคโนโลยีที่น่าสนใจกันบ้าง เริ่มกันตั้งแต่กุญแจเป็นแบบ Smart Key ที่ไม่ต้องหยิบขึ้นมาก็แตะเพื่อเปิดรถได้ ส่วนจะล็อกก็ใช้มือจิ้มตรงที่เป็นลอนๆ ตรงมือจับประตู และเราสามารถกดเปิดฝากระโปรงท้ายได้จากรีโมต นอกจากนี้ยังมีระบบ Remote Engine Start ซึ่งเราจะสามารถจะสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์ไล่ความร้อนได้ก่อนที่จะเข้ามาอยู่ในรถ มันจะดีในช่วงเวลาที่เราจอดรถตากแดด แต่ทั้งนี้เมื่อเข้ามาในรถแล้วเราต้องเหยียบเบรกแล้วกดปุ่มสตาร์ทก่อนถึงจะขับออกไปได้นะ

เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า ฝั่งคนขับสามารถปรับได้ 8 ทิศทางปรับง่ายๆ แบบนั่งขับสบายๆ เลย พร้อมระบบบันทึกความจำตำแหน่งเบาะ มีระบบเลื่อนถอยเบาะให้โดยอัตโนมัติเมื่อดับเครื่องเพื่อให้ลุกเข้าออกได้ง่าย สบายในการเข้าออกไปอีกแบบ และมีปุ่มปรับดันหลัง ส่วนเบาะฝั่งคนนั่งนั้นแม้จะปรับได้แค่เลื่อนหน้าหลังและเอน แต่ดีที่ว่าเบาะตัวใหญ่และวางตำแหน่งสูงกว่าชีวิค ทำให้การนั่งโดยสารสบายกว่าซีวิคมาก เช่นเดียวกับเบาะหลังที่อยู่ในตำแหน่งที่นั่งแล้วสบายพอดี มีความกว้างขวางทั้งตัวเบาะรองนั่ง รวมไปถึงส่วนพิงหลังก็ให้ความสบายสมกับความใหญ่โตของรถ

จอกลางของ Accord มีขนาด 8 นิ้ว แบบมัลติมีเดียรองรับ AppleCarPlay/Android Auto ซึ่งการใช้งานก็ง่ายทัชกรีนแบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ซึ่งจอกลางของ Accord นี้ยังโชว์ภาพให้ระบบ LaneWatch เช่นเดียวกับซีอาร์วี โดยเมื่อเปิดไฟเลี้ยวซ้ายหรือกดปุ่มที่ปลายก้านไฟเลี้ยวภาพในมุมอับของกระจกด้านซ้ายจะโชว์ให้เห็น ซึ่งก็น่าประทับใจมากเพราะบางทีเราก็มองไม่เห็นสิ่งที่กล้องแสดงให้เห็น ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยที่เคยอับได้มาก ส่วนกล้องถอยหลังนั้น มีมาให้ปรับมุมมองความกว้างได้ 3 แบบ แต่ไม่มีกล้องมองรอบคัน 360 องศามาให้ ด้านเครื่องเสียงมาพร้อมลำโพง 8 ตัว เสียงดีพอใช้

รูปทรงของฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่นี้อาจจะดูเหมือนเตี้ยและน่าจะทำให้ห้องโดยสารแคบ แต่นั่นเป็นการออกแบบที่หลอกตา เพราะภายในกว้างกว่าที่รู้สึกจากภายนอก ภาพรวมดูโฉบเฉี่ยวโดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านหน้าตรง จะรู้สึกสวยและมีเสน่ห์มากๆ ส่วนบรรยากาศภายในรุ่นใหม่นี้ก็จะดูเรียบๆ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบอะไรเยอะ แต่มีฟังก์ชันทุกอย่างให้ใช้ครบเพียงพอต่อความต้องการ แอร์เย็นสบายทุกที่นั่ง แถมยังรู้สึกว่าเงียบขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นเดิม ด้านอัตราการสิ้นเปลืองนั้นก็ไม่ได้ลองทดสอบอย่างจริงจัง แต่มั่นใจว่าประหยัดกว่าพวกรถเครื่องใหญ่แรงม้าและแรงบิดพอๆ กันอย่างแน่นอน