ไปรษณีย์ไทย แนะไม่ต้องทิ้งของที่ขึ้นเครื่องบินไม่ได้ เพราะ “ตู้เอพีเอ็ม” ช่วยได้

ไปรษณีย์ไทย

ไปรษณีย์ไทย จับมือกรมท่าอากาศยาน พัฒนาแนวทางปฏิบัติด้านการรักษาความปลอดภัยการส่งสิ่งของทางไปรษณีย์ เน้นนวัตกรรมที่ใช้ในขั้นตอนการปฏิบัติงาน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการและลดระยะเวลาการนำสิ่งของขึ้นบนอากาศยาน

พร้อมเตรียมขยายจุดบริการ “ตู้เอพีเอ็ม” หรือเครื่องบริการไปรษณีย์อัตโนมัติ เพื่อรับฝากส่งสิ่งของที่ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ไปยังปลายทาง

โดยการติดตั้งดังกล่าวได้ทำทั้งในและต่างประเทศ ณ ท่าอากาศยานอีก 7 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี ท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานี ท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ท่าอากาศยานขอนแก่น ท่าอากาศยานแม่สอด

นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยจับมือกับ กรมท่าอากาศยานร่วมกันพัฒนาแนวทางปฏิบัติด้านการรักษาความปลอดภัยการส่งสิ่งของทางไปรษณีย์ผ่านท่าอากาศยาน

ตลอดจนร่วมแก้ไขปัญหาความล่าช้ากรณีตรวจพบอาวุธหรือวัตถุต้องห้ามในถุงไปรษณีย์ ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่เชี่ยวชาญในแต่ละฝั่ง รวมถึงนวัตกรรมที่ใช้ในขั้นตอนการปฏิบัติงาน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการ และลดระยะเวลาการนำสิ่งของขึ้นบนอากาศยาน

โดยขณะนี้ไปรษณีย์ไทยอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการขยายจุดบริการการ “ตู้เอพีเอ็ม” หรือ เครื่องบริการไปรษณีย์อัตโนมัติ รองรับผู้ใช้บริการที่ต้องการฝากส่งเร่งด่วนหรือสิ่งของที่ไม่ผ่านการเอกซเรย์ รวมทั้งสิ้นจำนวน 9 เครื่อง ณ สนามบินอีก 7 แห่ง

ได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ (จำนวน 2 เครื่อง) ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี (จำนวน 2 เครื่อง) ท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานี ท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ท่าอากาศยานขอนแก่น ท่าอากาศยานแม่สอด

โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ พร้อมให้บริการทั้งหมดภายในเดือนพฤษภาคม 2561 นี้ และในปี 2562 จะขยายจุดให้บริการเพิ่มขึ้นอีก 10 สนามบิน ตลอดจนเป้าหมายที่จะขยายให้ครอบคลุม 28 สนามบินในลำดับถัดไป

ทั้งนี้ตู้เอพีเอ็ม หรือ เครื่องบริการรับฝากไปรษณีย์อัตโนมัติ ได้ทำการเปิดตัวครั้งแรกที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา เพื่ออำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวที่โดยสารเครื่องบินและมีสิ่งของที่ไม่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้

เช่น ของเหลวเกิน 100 มิลลิลิตร โดยที่ผ่านมาผู้เดินทาง และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ ให้ความสนใจและใช้บริการตู้เอพีเอ็มอย่างต่อเนื่อง ตลอดช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีการใช้บริการรวมทั้งสิ้นกว่า 2,200 ครั้ง นางสมร กล่าวทิ้งท้าย

banner Sample

Related Posts